Digit & Count

Digit มีความหมายว่า ตัวเลขเลขจำนวนใดจำนวนหนึ่งตั้งแต่ 1 ถึง9 , จำนวน 0 ถึง 9
ส่วน Count แปลตามภาษาอังกฤษคือ การนับ
เช่น 1899 1900 1901 มีการเพิ่มขึ้นทีละ 1 การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของการนับ หรือบวกลบ 1 digit เช่นกัน
การแสดงผลของ half-digit
 การแสดงผลจะอยู่ในรูป 31/2 digit41/2 digit 
31/2 digit จะอ่านค่าได้ระหว่าง 000 ไปจนถึง 999
และใน 41/2 digit จะอ่านค่าได้ระหว่าง 0000 ไปจนถึง 9999
แต่ใน 2 กรณีนี้ ตัวเลขที่อยู่หน้าสุดจะเป็นตัวเลขที่จำกัด โดยจะสามารถแสดงตัวเลขได้มากสุดคือ 0-1
แต่ตัวเลขถัดไปเรื่อยๆสามารถอ่านได้ 0-9 เป็นแบบ full digit ได้เลย
และ 43/4 digit สามารถอ่านได้ 5 หลัก โดยที่ หลักหน้าสุดอ่านค่าได้ 0-3 จะได้ 00000 จะถึง 39999

ตัวอย่างของการวัด
Measured Value
3 Digit
3 ½ Digit
4 ½ Digit
4 ¾ Digit
16.235 V
16.2
16.23
16.235
16.235
37.235 V
37.2
37.2
37.23
37.235


Digital Multimeter

     มัลติมิเตอร์แบบตัวเลข (Digital Multimeter, DMM) สามารถวัดปริมาณทางไฟฟ้าได้หลายประเภท เช่นเดียวกับมัลติมิเตอร์แบบเข็ม นอกจากนี้ยังสามารถวัดปริมาณกระแสสลับ วัดการขยายกระแสตรงของทรานซิสเตอร์ วัดความจุไฟฟ้าและตรวจสอบไดโอดได้อีกด้วย
มัลติมิเตอร์แบบตัวเลข มีลักษณะดังภาพข้างล่าง

มัลติมิเตอร์แบบตัวเลข

ส่วนประกอบที่สำคัญของมัลติมิเตอร์แบบตัวเลข
       1. จอแสดงผล (display)
       2. สวิตซ์เปิด-ปิด (ON-OFF)
       3. สวิตช์เลือกปริมาณที่จะวัดและช่วงการวัด (range selector switch) สามารถเลือกการวัดได้ อย่าง ดังนี้
1. DCV สำหรับการวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรง มี ช่วงการวัด
2. ACV สำหรับการวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสสลับ มี ช่วงการวัด
3. DCA สำหรับการวัดปริมาณกระแสตรง มี ช่วงการวัด
4. ACA สำหรับการวัดปริมาณกระแสสลับ มี ช่วงการวัด
5. สำหรับการวัดความต้านทาน มี ช่วงการวัด
6. CX สำหรับการวัดความจุไฟฟ้า มี ช่วงการวัด
7. hFE สำหรับการวัดการขยายกระแสตรงของทรานซิสเตอร์
8. สำหรับตรวจสอบไดโอด
      4. ช่องเสียบสายวัดร่วม :(COMใช้เป็นช่องเสียบร่วมสำหรับการวัดทั้งหมด (ยกเว้นการวัด CX และ hFE ไม่ต้องใช้สายวัด)
      5. ช่องเสียบสายวัด mA สำหรับวัด DCA และ ACA ที่มีขนาด 0-200 mA
      6. ช่องเสียบสายวัด 10A สำหรับวัด DCA และ ACA ที่มีขนาด 200 mA-10A
      7. ช่องเสียบสำหรับวัดการขยายกระแสตรงของทรานซิสเตอร์
      8. ช่องเสียงสำหรับวัดความจุไฟฟ้า
      9. ช่องเสียบสายวัด V
นอกจากนี้บนแผงหน้าของมัลติมิเตอร์แบบตัวเลขยังมีสัญลักษณ์เพื่อความปลอดภัย (safety symbols) กำกับไว้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลสำหรับเตือนผู้ใช้ให้มีความระมัดระวังในการใช้เครื่องมือ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เองและให้เครื่องมืออยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้งานได้เสมอ สัญลักษณ์ที่กล่าวนี้ได้แก่
       หมายถึง ให้ดูคำอธิบายในคู่มือ หมายถึง ความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง

ลักษณะเฉพาะบางประการของเครื่องวัด
       1. จอแสดงผล (display) แสดงด้วยตัวเลข หลัก ( digit) เนื่องจากค่าสูงสุดที่สามารถแสดงได้คือ 1999 ตัวเลขหลักที่ 1, 2และ 3 (นับจากขวาสุดไปทางซ้าย) แปรค่าได้จาก ถึง 9 (เรียกว่า full digit) ส่วนตัวเลขหลักที่ จะแสดงตัวเลขได้เฉพาะ เท่านั้น (เรียกว่า half digit)
       2. สภาพขั้ว (polarity) ในการวัดปริมาณทางไฟฟ้าบางชนิดเช่นความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงด้วยเครื่องวัดที่ใช้เข็มชี้เป็นตัวแสดงผล เมื่อต่อสายวัดผิดขั้ว เข็มของเครื่องวัดจะตีกลับในทิศตรงข้าม ในสภาวะเช่นนี้สำหรับมัลติมิเตอร์แบบตัวเลขจะปรากฏเครื่องหมาย - บนจอแสดงผล
       3. ในการวัดปริมาณใด ๆ ที่ตั้งช่วงการวัดต่ำกว่าค่าที่จะวัด จอแสดงผลจะแสดงตัวเลข หรือ -เช่น จะวัดความต้านทาน 10 kแต่ตั้งช่วงการวัดไว้ที่ 0-2 k จะปรากฏ แสดงว่าค่าที่จะวัดสูงกว่าช่วงการวัดที่ตั้งไว้
       4. เมื่อแหล่งจ่ายกำลังให้เครื่องวัด คือ แบตเตอรี่ 9V อ่อนกำลัง LO BAT จะปรากฎบนจอเตือนให้ผู้ใช้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ 

ความแม่น (accuracy) ของเครื่องวัด
            ค่าที่อ่านได้จากเครื่องวัดจะมีความเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความแม่นของเครื่องวัด ซึ่งจะระบุไว้ในคู่มือการใช้เครื่องมือนั้น ๆ การบอกความแม่นมีวิธีบอกได้หลายแบบ มัลติมิเตอร์แบบเข็ม ซึ่งเป็นเครื่องวัดที่ใช้การเบี่ยงเบนของเข็มชี้เป็นตัวแสดงผล บอกความแม่นเป็น %fs สำหรับมัลติมิเตอร์แบบตัวเลขนิยมบอกความแม่นเป็น (% reading + number of digits of error) เขียนย่อเป็น (%rdg + no. of dgtซึ่งจะมีค่าเปลี่ยนไปสำหรับแต่ละปริมาณที่จะวัด และอาจจะเปลี่ยนไปได้อีกเมื่อเปลี่ยนช่วงการวัด ดังตัวอย่างในตาราง
1.2 Electrical Specifications
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifINTRODUCTION
Accuracies are (%reading plus number of digits). At 235oC, less than 75% RH.
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifDC VOLTAGE
RANGE
ACCURACY
RESOLUTION
INPUT IMPEDANCE
OVERLOAD PROTECTION
400 mV,4V,40V,400V,1000V
ALL RANGE (0.5% RDG+1 DGT)
100v TO 1V
20 M
500VDC/350VAC FOR 15 SEC. ON
400mV RANGE 1200 VDC/800VAC ON
OTHER RANGE
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifAC VOLTAGE
RANGE
ACCURACY
400mV,4V,40V,400V, 750V.
400mV-400V @50-500HZ(1%RDG+
4DGTS). 750V @50-500HZ, (1.5%
RDG+4DGTS).
RESOLUTION
INPUT IMPEDANCE
OVERLOAD PROTECTION
100http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/mu.gifV to 1V.
20 M
500VDC/350VAC FOR 15 SEC. ON
400mV RANGE 1200VDC/800VAC ON
ALL OTHER RANGE.
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifDC CURRENT
RANGE
ACCURACY
40mA. 400mA. 10A
10A RANGE, (2% RDG+3DGTS)
OTHER RANGE(1% RDG+1DGT)
RESOLUTION
VOLTAGE BURDEN
OVERLOAD PROTECTION
10a TO 10mA
10A RANGE 700mV MAX.
10A INPUT, UNFUSE, UP TO 12A FOR
30 SEC. OTHER RANGE INPUT. 0.8A/
250V FUSE.
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifAC CURRENT
RANGE
ACCURACY
40mA. 400mA, 10A.
10A RANGE @50-500HZ, (2% RDG
+4 DGTS) OTHER RANGE @50-500HZ.(1.2%RDG-4DGTS)
RESOLUTION
VOLTAGE BURDEN
OVERLOAD PROTECTION
10A to 10mA
10A RANGE 700 mV. MAX.
10A INPUT. UNFUSE, UP TO 12A
FOR 30 SEC. OTHER RANGE INPUT.
0.8A/250V FUSE.
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifRESISTANCE
RANGE
400, 4K, 40K, 400K
, 4M
40M, 400M
ACCURACY

400M5%RDG-20DGTS
40M3%RDG+3DGTS
4001%RDG+3DGTS
OTHER RANGE 0.8%RDG-1DGT
RESOLUTION
OVERLOAD PROTECTION
TEST VOLTAGE
100mTO 100K
500VAC/DC A DC 500 VDC/AC
400, 400M, 3.4V MAX. OTHER
RANGES, 0.6V MAX.
http://www.school.net.th/library/snet3/saowalak/digital_multi/bullet.gifCAPACITANCE
RANGE
ACCURACY
TEST FREQUENCY
TEST VOLTAGE
RESOLUTION
4nF, 40nF, 400nF, 4F, 40F.
ALL RANGE (3% RDG+10 DGTS)
400HZ
50mV
1PF TO 10nF.


           จากตารางจะเห็นว่า ถ้าเป็นการวัด DCV ความแม่นอยู่ในขอบเขต (0.5% rdg + 1dgt) ทุกช่วงการวัด ถ้าเป็นการวัด DCAความแม่นอยู่ในขอบเขต (1.0% rdg+1 dgtเฉพาะในช่วงการวัด ช่วงแรก ส่วนช่วงการวัด 0-10 A ความแม่นจะอยู่ในขอบเขต (2.0%rdg+3dgt) เป็นต้น

ตัวอย่างการหาความแม่น
          ในการวัดความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงของเซลล์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง (สมมติว่าค่าไม่เกิน 1.7V) ต้องบิดสวิตช์เลือกการวัดไปที่DCV และเลือกช่วงการวัด 0-2 V ช่วงการวัดนี้มีความแม่น (0.5% rdg+1dgt) ซึ่งหาได้ดังนี้
สมมติค่าที่อ่านได้ (readingจากจอแสดงผล   =   1.604V
ดังนั้น 0.5% rdg   =   0.5 x 10-2 x 1.604V   =   0.008V
และ 1dgt   =   0.001 V ได้จากการพิจารณาว่าค่าที่อ่านได้คือ 1.604V เกิดจากการนับ 1604 ครั้ง ในการนับทั้งหมด 1604 ครั้งนี้มีความผิดพลาดได้ ครั้ง ดังนั้น 1dgt ในที่นี้คือ ใน 1604 หรือประมาณ 0.001 V ใน 1.604V 
ข้อควรระวังและการเตรียมสำหรับการวัด
          1. ก่อนการวัดปริมาณใด ต้องแน่ใจว่า
1) บิดสวิตซ์เลือกการวัดตรงกับปริมาณที่จะวัด
2) สวิตซ์เลือกการวัดอยู่ในช่วงการวัดที่เหมาะสมไม่ต่ำกว่าปริมาณที่จะวัด
ในกรณีที่ไม่ทราบปริมาณที่จะวัดมีค่าอยู่ในช่วงการวัดใด ให้ตั้งช่วงการวัดที่มีค่าสูงสุดก่อน
แล้วค่อยลดช่วงการวัดลงมาทีละช่วง
         2. เนื่องจากช่องเสียบสายวัด (สีแดง) มีหลายช่อง คือ V-mA และ 10 A ต้องแน่ใจว่าเสียบสายวัดสีแดงในช่องเสียบตรงกับปริมาณที่จะวัด
         3. ในกรณีที่วัดความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงตั้งแต่ 25 VAC หรือ 60 VDC ขึ้นไป ระวังอย่าให้ส่วนใดของร่างกายแตะวงจรที่กำลังวัดจะเป็นอันตรายได้
        4. ในขณะที่กำลังทำการวัด และต้องการปรับช่วงการวัดให้ต่ำลงหรือสูงขึ้นหรือเลือกการวัดปริมาณอื่น ให้ดำเนินการดังนี้
1) ยกสายวัดเส้นหนึ่งออกจากวงจรที่กำลังทดสอบ
2) ปรับช่วงการวัดหรือเลือกการวัดปริมาณอื่นตามต้องการ
3) ทำการวัด
         5. การวัดปริมาณกระแสสูง (~10A) ควรใช้เวลาวัดในช่วงสั้นไม่เกิน 30 วินาที
         6. เมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ให้เลื่อนสวิตซ์ปิด-เปิด มาที่ OFF ถ้าไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน ควรเอาแบตเตอรี่ออกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น